สักคิ้วมีแบบไหนบ้างมาทำความรู้จักกัน
มีการกล่าวว่า “คิ้ว” เป็นมงกุฎของใบหน้า และก็จริงตามนั้นเสียด้วย เพราะคิ้วสวยช่วยเสริมให้เจ้าของใบหน้าดูเด่น เหตุนี้นั่นเองที่ทำให้คนที่คิ้วบางหรือมีคิ้วแหว่งไม่ได้รูปนิยมไปเสริมคิ้วด้วยการสัก การสักคิ้วนั้นมีมานานแล้ว แต่เมื่อก่อนจะเป็นการสักคิ้วถาวร ที่มีลักษณะเหมือนเขียนคิ้วตลอดเวลา ข้อเสียของการสักคิ้วเมื่อก่อนจะดูหลอกตาในกรณีที่ไม่ได้แต่งหน้า เพราะมีแต่คิ้วเข้มๆ แต่ส่วนอื่นของใบหน้าไม่ได้แต่ง ใครที่สักคิ้วมาก็จะเห็นชัดว่าสักคิ้ว ต่อมาจึงมีพัฒนาการการสักคิ้วให้ดูดียิ่งขึ้น เรามาดูกันว่า นอกจากการสักคิ้วถาวรแล้ว ยังมีแบบไหนอีกบ้าง
- การสักคิ้ว 3 มิติ ลองนึกถึงภาพยนตร์ 3 มิติดู การสักคิ้ว 3 มิติก็ทำนองเดียวกัน คือจะเห็นภาพเสมือนจริง วิธีนี้ใช้การสักแบบสักขนคิ้วเป็นเส้นๆ ต่างจากสักถาวรที่เหมือนเขียนคิ้ว การสักขนคิ้วเป็นเส้นทำให้ดูเหมือนเป็นคิ้วธรรมชาติมากกว่า แบบนี้ดีตรงที่ใช้แก้ปัญหากรณีคิ้วแหว่ง คิ้วไม่เป็นระเบียบ ทำให้ดูมีรูปทรงคิ้วที่สวยอย่างที่ต้องการ
2. การสักคิ้ว 6 มิติ สักแบบ 3 มิติว่าล้ำแล้ว แต่ในปัจจุบันมีเทรนด์ใหม่กว่านั้นคือ การสักแบบ 6 มิติ ซึ่งแน่นอนว่าสมจริงกว่าการสัก 3 มิติแน่นอน ชัดทั้งในเรื่องเส้นขนคิ้วและการใช้สี ที่มีการใช้เทคนิคการเคลือบเส้นคิ้วทำให้ดูอ่อนพลิ้วและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น เทคนิคที่ในแวดวงการสักระบุว่าเป็นการใช้ใบมีดกรีดทำลายเส้นคิ้วและเติมสีเข้าไป ทำให้หมึกซึมลงไปในเส้นคิ้วที่ทำไว้ ซึ่งต้องใช้ช่างที่ชำนาญในการทำแบบนี้
3. การสไลด์คิ้ว ศิลปะการสร้างมงกุฎให้แก่ใบหน้าได้รับการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ยิ่งนับว่ายิ่งใช้ศิลปะเข้ามามีส่วนมากขึ้น อย่างเช่นแบบนี้ สไลด์คิ้วเป็นการให้เครื่องมือเพ้นท์ เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ยังไม่กล้าสัก การสไลด์คิ้วนี้จะไม่ทิ้งร่องรอยการสักและดูเป็นคิ้วที่เขียนออกมาได้เป็นธรรมชาติ รวมถึงไม่เจ็บเหมือนการสักอีกด้วย แต่มีข้อจำกัดตรงที่การสไลด์คิ้วมีอายุการใช้งานน้อยกว่าอย่างอื่นคือ ปีหรือ 2 ปีก็ต้องทำใหม่อีกครั้ง
สำหรับสาวๆ ที่เบื่อการเขียนคิ้วทุกวัน มักเลือกการสักคิ้วเข้ามาช่วย นอกจากประหยัดเวลาแล้ว การพัฒนารูปแบบยังช่วยให้สวยเป็นธรรมชาติกว่าการเขียนคิ้วด้วย แต่การตัดสินใจก็ต้องดูให้ดี เพราะเดี๋ยวนี้มีการเปิดธุรกิจสักคิ้วเยอะมาก มีการจัดโปรลดราคาอีก เมื่อมีตัวเลือกแล้ว ต้องเลือกให้ดี ไม่งั้นจะเสียเวลามาแก้ไขอีก
