เคล็ดลับกำจัดปลวก ด้วยตนเอง อ่านเสร็จทำตามได้ทันที
บ้านที่อยู่อาศัยของเราที่ลงทุนซื้อหรือปลูกสร้างมาด้วยเงินจำนวนมากที่บางครั้งกว่าจะได้เป็นเจ้าของต้องผ่านการเก็บหอมรอมริบมาหลายๆ ปี แต่บ้านของเราปลูกบนพื้นดิน แม้ไม่ใช่บ้านไม้ทั้งหลังแต่ก็ยังมีองค์ประกอบที่ทำด้วยไม้ในบางส่วน เช่น ตามวงกบประตู หน้าต่าง อาจจะมีอยู่บ้างที่พยายามหลีกเลี่ยงการใช้วัสดุไม้จริง แต่โดยส่วนใหญ่แม้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความสวยงามก็มักจะทำด้วยไม้ แต่สำหรับในเมืองไทย วัสดุ เฟอร์นิเจอร์ ที่มีส่วนประกอบของไม้นั้นมีความเสี่ยงที่จะถูกทำลายจากสัตว์ร้ายตัวเล็กๆ ที่เป็นภัยคุกคามบ้านของเราโดยที่บางครั้ง กว่าจะรู้ตัวก็สายเกินไปแล้ว
ปลวก เป็นสัตว์ตัวเล็กๆ ที่เราอาจไม่ค่อยรู้จักหน้าตาของมัน แต่ผลงานของมันเป็นที่รู้จักดีเพราะสามารถกินบ้านได้เป็นหลังๆ ดังนั้น ไม่ว่าบ้านจะปลูกได้ประณีตและมีต้นทุนสูงเพียงใด สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ การฉีดน้ำยากันปลวกรอบบ้าน ซึ่งในปัจจุบันนี้หากเป็นบ้านจัดสรร ทางบริษัทที่ก่อสร้างมักดำเนินการให้แล้วเสร็จและรับประกันเป็นเวลา 1 ปี หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของเจ้าของบ้านต้องดูแลเองต่อไป
น้ำยากำจัดปลวก
โดยทั่วไปนั้น มักทำจากสารเคมี ซึ่งเราก็รู้ดีอยู่แล้วว่า ขึ้นชื่อว่าสารเคมีนั้น นอกจากจะต้องมีค่าใช้จ่ายแล้ว ยังอาจทำร้ายสุขภาพของเราไปด้วย เพราะสารเคมีเป็นเหตุทำให้เราเกิดอาการแพ้ได้เมื่อสูดดมผ่านทางอากาศเข้าไปสู่ร่างกาย อันตรายเหล่านั้นทำให้มีการคิดค้นหาวิธีดูแลทั้งบ้านและตัวเอง จนมีการศึกษาว่าอะไรที่จะสามารถมาทดแทนน้ำยากำจัดปลวกได้
และที่สุดก็พบว่า สมุนไพรที่เรารู้จัก พบเห็นทั่วไปในประเทศของเรานี่แหละดีกว่าใคร ทั้งถูก และสามารถเก็บไว้ใช้ได้นานและที่แน่นอนไม่ทำร้ายสุขภาพของเราอีกด้วย วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับเด็ดๆ ของสมุนไพรที่สามารถไล่เจ้าปลวกให้ออกไปไกลบ้านของคุณได้แน่นอน มาดูกันเลยว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
- ใบขี้เหล็ก ในใบขี้เหล็ก มีสารกลุ่มโครโมน (Chromone) ซึ่งมีฤทธิ์คลายเครียดและช่วยให้นอนหลับ และมีพิษอยู่ในตัวมันเอง เวลาจะกินยังต้องนำมาต้มแล้วทิ้งน้ำเพื่อกำจัดพิษออกก่อน ในตัวพิษของมันนี่แหละกำจัดปลวกได้
- ใบสัก ทั้งสดและแห้ง สามารถนำมาบดผสมน้ำกำจัดปลวกได้ด้วยฤทธิ์ของสารเทคโตควิโนนที่มีอยู่โดยธรรมชาติ จะสังเกตพบว่า ในอดีตคนไทยก็นิยมปลูกบ้านด้วยไม้สัก นั่นเพราะว่า นอกเหนือจากความสวยงามแล้วยังปลอดภัย
- ขมิ้นชัน สมุนไพรหาง่ายมีผลต่อการหยุดการ ทำงานของเอนไซม์ที่มีเชื้อราในมนุษย์ พืชและสัตว์
- เมล็ดน้อยหน่า กินผลแล้วก็อย่าลืมเก็บเมล็ดไว้ เพราะยังมีประโยชน์ด้วยคุณสมบัติพิเศษของมันที่มีผลต่อการทำลายเนื้อเยื่อของสัตว์
- สะเดาอินเดีย มีสารที่ลดการพัฒนาของแมลง ทำให้แมลงไม่กินพืชที่เราปลูก
- หางไหล โดยทั่วไปจะใช้กำจัดศัตรูพืช ซึ่งก็คือพวกแมลงต่างๆ นั่นเอง
สมุนไพรตั้งแต่ประเภทที่ 3-6 นี้ มีสารที่มีผลต่อการหายใจของแมลงจำพวกปากดูดและเจาะดูด และปลวกอยู่อยู่ในสัตว์ตระกูลดังกล่าว
- สาบเสือ โดยทั่วไปมีผลต่อการลดระดับเอนไซม์ในเลือด แต่เกษตรกรนิยมนำมาสับแล้วหมัก เสร็จแล้วกรองไว้แต่น้ำ เพื่อใช้กำจัดพวกเพลี้ยต่างๆ ตลอดจนหนอนกระทู้ หนอนใยผัก
- ต้นพริก มีผลต่อ การลดการทำงานของอนุมูลอิสระ
- หญ้าแห้วหมู ปกติหญ้าแห้วหมูเป็นวัชพืชไร้ค่าและมักจะเป็นสิ่งที่โดนกำจัด ตลอดจนสร้างปัญหาให้แก่เกษตรเพราะตัวของมันกำจัดยาก แต่มันกลับมีผลในเรื่องของกำจัดปลวกได้
สมุนไพรตั้งแต่ประเภทที่ 7-9 มีสารยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ในปลวก
10. เปลือกมังคุด มีผลต่อการทำลายระบบภูมิคุ้มกันในปลวก
อีกอย่างหนึ่งที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านก็คือ เกลือ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกครัวเรือนต้องมีเพื่อใช้ในการปรุงอาหาร แม้ในของหวานก็ยังใช้ ของหาได้ง่ายและราคาถูกมาก เวลาสร้างบ้านใหม่ เกลือนี่เองที่ได้รับคำแนะนำต่อๆ กันมาว่า เวลาสร้างบ้านใหม่ ให้นำเกลือเม็ดที่ขายเป็นกระสอบมาโรยพื้นก่อนเทคาน จะช่วยป้องกันปลวกและกำจัดปลวกที่มีอยู่ก่อนแล้วให้หายไปอีกด้วย
นอกเหนือจากที่แนะนำข้างต้นแล้ว จริงๆ ยังมีสมุนไพรอีกหลายตัวมากที่สามารถนำมาใช้ได้ ทั้งนี้โดยอ้างอิงจากพืชสมุนไพรที่เกษตรกรนำมาใช้กำจัดแมลงที่รบกวนพืชสวนพืชไร่ของตัวเองเป็นหลัก ลองศึกษาและนำมาประยุกต์ให้เข้ากัน เชื่อว่าการทำส่วนผสมสมุนไพรขึ้นใช้เองทั้งสด แห้ง หรือนำไปทำน้ำหมัก สามารถช่วยดูแลบ้านของคุณได้
ส่วนวิธีการที่มีการใช้กันนั้น มีผู้แนะนำไว้ว่า เนื่องจากสมุนไพรที่มีผลในการกำจัดปลวกได้นั้น ปลวกก็มีสัญชาตญาณในการปกป้องชีวิตตนเองโดยธรรมชาติ มันจึงไม่ชอบกินสมุนไพรดังกล่าวมาแล้วข้างต้น ดังนั้น คนที่จะใช้สมุนไพรมากำจัดปลวกจึงนำสมุนไพรมาผสมกับไม้ที่ปลวกชอบกิน เช่น ไม้ฉำฉา โกงกาง ทองหลาง โดยนำมาผสมกันในอัตราส่วนสมุนไพร 1 % และอีก 99 % เป็นไม้
ปัจจุบันนี้ เนื่องจากมีการศึกษาวิจัยในเรื่องการใช้สมุนไพรกำจัดปลวกเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ที่กลัวอันตรายจากการใช้สารเคมี บริษัทกำจัดปลวกจึงหันมาใช้น้ำยาสมุนไพรแทนสารเคมี แต่ก็ควรระมัดระวังเพราะอาจมีบางบริษัทถือโอกาสโฆษณาเกินจริงอยู่บ้าง
