โรคกระเพาะอาหารคืออะไร ป้องกันอย่างไร

0
12463

โรคกระเพาะอาหารคืออะไร ป้องกันอย่างไร

หลายๆคนนั้นอาจจะมีอาการปวดท้องแบบไม่ทราบสาเหตุทั้งที่คุณนั้นทานข้าวแล้ว  แต่คุณนั้นอาจจะมีแผลเล็กๆที่บริเวณกระเพาะอาหารของคุณก็ได้ โดยถ้าหากว่าคุณนั้นไม่ได้สนใจที่จะดูแลแล้วะก็ แน่นอนว่าตุณอาจจะเป็นโรคกระเพาะอาหารในแบบที่ร้ายแรงตามมาก็ได้ โดยสำหรับสำเหตุต่างๆ หรืออาการ รวมไปถึงขั้นตอนในการรักษานั้นก็มีดังนี้ และแน่นอนว่าอาจจะไขข้อข้องใจของคุณได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งช่วยคุณในการดูแลรักษาอีกด้วยนั่นเอง

โดยสาเหตุหลักๆแล้วนั้นจะเกิดจากการที่คุณนั้นทานอาหารไม่ตรงเวลา การสูบบุหรี่หรือแม้กระทั่งการดื่มแอลกอฮอล์แล้วละก็สามารถที่จะทำให้เกิดแผลที่กระเพาะอาหารของคุณได้เช่นกัน สำหรับแผลในกระเพาะอาหารของคุณนั้นก็จะมีอาการดังนี้ การปวดท้องมักจะเป็นๆหายๆอยู่ตลอด และเป็นอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน หรืออาจจะเป็นการจุกบริเวณใต้ลิ้นปี่ ซึ่งมักจะพบกันบ่อยๆในเวลาที่ท้องว่างหรืออาจจะเกิดเวลาที่คุณนั้นหิว ในส่วนของการรักษานั้นก็ง่ายเป็นอย่างมากแต่คุณนั้นก็จะต้องมีการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี โดยสำหรับการรักษานั้นก็มีดังนี้

1.อาหาร
– งดเว้นการทานอาหารรสจัดทั้งหมด และคุณจะต้องหันมาทานอาหารอ่อนๆแทน เพื่อที่จะสามารถให้กระเพาะของคุณนั้นสามารถที่จะย่อยอาหารได้ง่ายมากยิ่ขึ้น

2.ความเครียด
– แน่นอนว่าคุณนั้นจะต้องมีการจัดการกับความเครียดของคุณด้วยเช่นกัน เพื่อที่จะให้ร่างกายของคุณนั้นไดด้พักผ่อนอย่างเต็มที่และเพียงพอต่อความต้องการ

3.ยา
– หากว่าเมื่อได้มีการตรวจเรียบร้อยแวละก็คุณนั้นจะต้องมีการทานยาต่างๆ ซึ่งยานั้นก็จะมีการระบุเวลาในการรับประทาน ซึ่งคุณนั้นจะต้องมีการรับทานยาให้คุรบตามกำหนดอย่างไม่ขาดไม่เกินนั่นเอง

แต่ถึงอย่างไรก็ตามโรคกระเพาะอาหารนั้นมักจะเป็นโรคเรื้อรัง จึงทำให้ต่อให้รักษาแล้วแต่ก็มีโอกาสที่จะป่วยได้อีก ซึ่งอีกหนึ่งโรคที่น่ากลัวคู่กับโรคกระเพาะอาหารนั่นก็คือมะเร็ง แต่มักจะเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุเพราะฉะนั้นก็จะต้องได้รับการตรวจอย่างละเอียดนั่นเอง

เพราะฉะนั้นการเป็นโรคกระเพาะอาหารก็ถือเป็นอีกหนึ่งโรคที่อันตรายไม่แพ้โรคอื่นๆเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นสำหรับวิธีในการรักษาให้ดีที่สุดนั้นก็คือคุณจะต้องมีการเปลี่ยนแลงพฤติกรรมในการใช้ชีวิตของคุณอย่างมาก และจะต้องมีการรับประทานอาหารให้ตรงตามเวลาอยู่เสมอ และไม่ควรท่ะดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่มากเกินไป เพียงเท่านี้คุณก็จะลดความเสี่ยงลงไปได้อีกมากเลยทีเดียว ดังนั้นอย่าที่จะดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ