โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ คืออะไรป้องกันอย่างไร

0
4275

โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ คืออะไรป้องกันอย่างไร

คนเราต้องขับถ่ายปัสสาวะเป็นประจำทุกวัน วันละหลายครั้ง และกระเพาะปัสสาวะก็ต้องทำหน้าที่กักเก็บของเสียที่เป็นของเหลวตลอด แต่เนื่องจากอวัยวะบางส่วนอยู่ด้านนอก โดยเฉพาะอวัยวะของเพศหญิง จะอยู่ใกล้ช่องคลอดและทวารหนัก ทำให้บางครั้งเกิดการติดเชื้อได้ง่าย และเชื้อนั้นจะเดินทางผ่านไปตามท่อปัสสาวะ จนถึงกระเพาะปัสสาวะ แล้วทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ และเมื่อเกิดอักเสบขึ้นแล้วจะทำให้มีอาการอย่างอื่นตามมา กลายเป็นความเจ็บป่วยอีกอย่างหนึ่งที่ต้องรักษา

อันตรายจากโรค

หากปล่อยให้ความอักเสบนั้นเรื้อรัง เพราะยังรักษาไม่หาย อาจลามไปถึงตัวไต และก่อให้เป็นโรคอื่นๆ เพิ่มเติมและร้ายแรงยิ่งขึ้น เช่น มะเร็งที่กระเพาะปัสสาวะ ซึ่งถ้าถึงขั้นนั้น จะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ จึงไม่ควรมองข้ามเรื่องกระเพาะปัสสาวะอักเสบไป

สาเหตุและอาการของโรค

                โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียซึ่งอาจติดจากอุจจาระ เพราะช่องขับถ่ายอยู่ใกล้กัน โดยเฉพาะในเพศหญิง หรือเกิดเพราะเจ้าตัวชอบอั้นฉี่บ่อย ๆ หรือเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์รุนแรง อาการของโรคมีดังนี้

  1. ปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย
  2. ปัสสาวะกะปริดกะปรอย
  3. ปวดท้องเวลาปัสสาวะ
  4. ปัสสาวะไม่สุด
  5. ปวดแสบปวดร้อนขณะปัสสาวะ
  6. ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็น บางรายมีเลือดปน บางครั้งสีขุ่นเหมือนน้ำล้างเนื้อ

พฤติกรรมส่วนตัวที่เข้าข่ายเสี่ยงในการเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

  1. ไม่รีบเข้าห้องน้ำทันทีที่รู้สึกปวดปัสสาวะ และกลั้นไว้บ่อยๆ
  2. ชอบดื่มชา กาแฟ หรือแอลกอฮอล์ สิ่งเหล่านี้ ทำให้มีโอกาสเกิดการระคายเคืองที่เยื่อบุกระเพาะปัสสาวะ จึงกระตุ้นให้รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำบ่อย
  3. เร่งรีบปัสสาวะ และหยุดทั้งที่น้ำปัสสาวะยังไม่หมด ทำจนเป็นนิสัยบ่อยๆ ก็ทำให้เกิดการสะสมของเสียในกระเพาะ

4.ใส่กางเกงที่รัดรูปเกินไป ก่อให้เกิดความอับชื้นในร่มผ้า กลาย เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค

การป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมส่วนตัวเป็นหลักว่ามีวินัยในเรื่องต่อไปนี้มากน้อยเพียงใด ถ้าทำได้ก็ห่างไกลจากโอกาสเป็นโรคนี้

  1. ดื่มน้ำในปริมาณที่มากพอในแต่ละวันเพื่อจะได้เข้าห้องน้ำบ่อยและช่วยขับแบคทีเรียในร่างกายออกมา
  2. ไม่มีนิสัยกลั้นปัสสาวะ เมื่อปวดปัสสาวะจะรีบไประบายออกทันที
  3. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่กระตุ้นการขับปัสสาวะ เช่น ชา กาแฟ หรือแอลกอฮอล์
  4. เวลาทำความสะอาดบริเวณช่องคลอด ทวารหนักโดยเฉพาะในเพศหญิง ต้องเช็ดหรือฉีดล้างจากหน้าไปหลังเสมอ
  5. เลือกใช้ห้องน้ำสาธารณะที่ดูสะอาดเพียงพอ หรือใช้เฉพาะที่จำเป็นจริงๆ แต่ไม่ควรให้เป็นเหตุให้ต้องกลั้นปัสสาวะ
  6. ชุดชั้นในควรเลือกใช้แบบผ้าฝ้าย Cotton เพื่อป้องกันการอับชื้น และไม่ใส่กางเกงรัดรูปมากไป