กระดูกทับเส้นเกิดจากอะไร แนะนำวิธีการป้องกันที่คุณต้องรู้
กระดูกทับเส้น เป็นอีกโรคหนึ่งที่สร้างความทุกข์ทรมานให้คนที่เป็นโรคนี้ เนื่องจากการที่หมอนรองกระดูกบริเวณกระดูกสันหลังเมื่อกดทับเส้นประสาทแล้วจะทำให้ปวดและร้าวไปทั่ว ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก เพราะจะเจ็บปวดตลอดเวลา ทำลายความสุขในชีวิตประจำวัน ปล่อยไว้ก็ลำบาก จะผ่าตัดก็มีความเสี่ยงสูงกับการกลายเป็นคนพิการ หากไม่อยากมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ เราควรทำความรู้จักและป้องกันตัวเองไว้ดีที่สุด
กระดูกทับเส้นเกิดจากสาเหตุอะไร
กระดูกทับเส้นที่เราคุ้นหูกันนั้น ไม่ใช่กระดูกทั้งชิ้นหรือข้อใดข้อหนึ่งทับเส้นประสาท แต่หมายถึง 1. ส่วนของหมอนรองกระดูกสันหลังมีการ โป่งออกจากตำแหน่งเดิมแถวกระดูกสันหลังทำให้ไปเบียดทับกับเส้นประสาทที่มีอยู่ตามแนวกระดูกสันหลัง ชิ้นที่ L3 L4 L5 S1
- เกิดจากเยื่อหุ้มหมอนรองกระดูกมีการฉีกขาดแล้วของเหลวที่มีอยู่ข้างในไปกดทับเส้นประสาทที่มีอยู่ตามแนวกระดูกสันหลัง
ทำไมจึงเกิดเหตุดังกล่าว
- เนื่องจากหมอนรองกระดูกเสื่อม เพราะถูกกดทับ จะพบมากในคนที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน
- เกิดจากธรรมชาติของบางคนที่หมอนรองกระดูกไม่แข็งแรงพอ เวลาถูกแรงปะทะหรือกระทบแบบฉับพลัน ก็อาจทำให้หมอนรองกระดูกโป่งและฉีกจนของเหลวภายในออกมาเบียดเบียนเส้นประสาทได้
กระดูกทับเส้นมีอาการอย่างไร
อาการของกระดูกทับเส้นนั้น มีตั้งแต่ลางบอกเหตุจนถึงขั้นเคลื่อนไหวอิริยาบถปกติไม่ได้ อาการกระดูกทับเส้นมักเป็นอยู่สองที่ คือ บริเวณกระดูกสันหลังส่วนเอว และบริเวณคอ
- เริ่มปวดหลัง ปวดเอว แบบเป็นๆ หายๆ คือ รู้สึกแบบเจ็บแปล๊บขึ้นมา ซึ่งจะดีขึ้นได้หากมีการพักผ่อน
- ปวดหลังแบบฉับพลัน มีอาการแบบร้าวไปทั้งหลัง ลามลงไปด้านล่าง จนอาจมีอาการชาตามขา น่องจนถึงเท้าได้
การป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดโรคกระดูกทับเส้น
เนื่องจากอิริยาบถในชีวิตอาจส่งผลให้เป็นโรคนี้ได้ จึงควรระวังในเรื่องต่อไปนี้
- ระวังเวลายกของหนักเกินกำลัง เพราะเราไม่รู้ว่า หมอนรองกระดูกของเราอ่อนแอหรือไม่ อาจเกิดผิดพลาดทำให้ของเหลวภายในทะลุออกมาทับเส้นประสาทได้
- ระวังเวลาออกกำลังกาย เพราะการบิดตัวอย่างรวดเร็ว ก็มีแนวโน้มให้เกิดโรคได้
- ระวังเรื่องท่านั่งที่ต้องอยู่ในอิริยาบถ กระดูกกดทับนานๆ ไม่ว่าจะเป็นการต้องขับรถประจำ หรือทำงานนั่งโต๊ะในออฟฟิศ
- ในผู้สูงอายุต้องระวังเรื่องการล้ม
- สตรีมีครรภ์ควรระวังเป็นพิเศษ เพราะช่วงตั้งครรภ์นั้น ช่วงบริเวณครรภ์ที่ใหญ่ขึ้นทำให้กระดูกโค้งผิดจากธรรมชาติอยู่แล้ว อีกทั้งเป็นช่วงที่ร่างกายอาจขาดแคลเซี่ยม กระดูกไม่แข็งแรงเท่าเดิม การระวังการเคลื่อนไหวต้องมีเป็นพิเศษ