โรคไข้เลือดออก ป้องกันอย่างไร เรามีคำตอบ

0
11987

ข้อควรระวังเกี่ยวกับ โรคไข้เลือดออกทำอย่างไรไม่ให้เป็นโรคโรคไข้เลือดเรามีคำตอบ

โรคไข้เลือดออกนั้นเป็นอีกหนึ่งโรค ที่มีความร้ายแรงอย่างมาก โดยอาจมีความร้ายแรง ถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้เลยทีเดียว โดยโรคดังกล่าวนี้เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี่ (Dengue Virus) ที่มีอยู่ในน้ำลายของยุงลาย เมื่อยุงลายนั้นมากัดคนเข้า เชื่อดังกล่าวก็จะแพร่สู่คนได้นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม สำหรับอาการของโรคไข้เลือดออกนั้น ไม่มีอาการที่จำเพาะ

แต่จะสามารถแบ่งออกเป็นอาการที่สำคัญได้ ดังนี้

– มักมีอาการไข้สูงลอย คือมีไข้ ตัวร้อน 39-40 องศาเซลเซียสขึ้นไป นอกจากนั้นผู้ป่วยจะมีอาการหน้าแดง ปวดเมื่อตามตัว สำหรับอาการนี้ จะเป็นอยู่ประมาณ 4-5 วัน

– อาการเลือดออก ผู้ป่วยจะมีเลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล เลือดออกในกะเพาะ ตลอดจนอาจมีอาการอาเจียนเป็นเลือดด้วย

– อาการตับโต

– มีอาการผิดปกติของระบบไหลเวียนโลหิต ตลอดจนมีอาการช็อก ซึ่งเป็นอาการที่เกิดก่อนช่วงไข้จะลด ผู้ป่วยจะมีอาการ มือเท้าเย็น กระสับกระส่าย รอบปากเขียวคล้ำ  ปวดท้อง ความดันต่ำ ชีพจรต่ำ เป็นต้น

อาการของโรคไข้เลือดออกนั้น แบ่งเป็นระยะที่สำคัญได้ 3 ระยะ

คือ ระยะไข้สูงแบบฉับพลัน ตัวร้อนแบบไข้ลอยที่กินยาลดไข้ก็ยังไม่ลด ปวดท้อง อาเจียน เป็นต้น ต่อมาคือระยะที่ 2 ซึ่งเป็นระยะที่ผู้ป่วยจะมีอาการช็อก หลังจากไข้เริ่มจะลดลง ผู้ป่วยจะมีอาการอาเจียน ปวดท้อง ความดันต่ำ ชีพจรต่ำ เหงื่อออกมาก กระสับกระส่าย มีตุ่มเลือดขึ้นตามผิวหนัง ระยะนี้หากไม่ได้รับการรักษาประคับประคองอาการ ผู้ป่วยจะเสียชีวิต ในระยะเวลา 1-2 วัน

สำหรับระยะ สุดท้ายของโรคไข้เลือดออก จะเป็นระยะฟื้นตัว เป็นระยะที่ผู้ป่วยจะเริ่มฟื้นตัว (หลังการรับการรักษาประคับประคองจนผ่านระยะที่ 2 มาได้) เป็นระยะเวลาประมาณ 7-10 วัน

การรักษาอาการ ของโรคไข้เลือดออก จะไม่มีวัคซีนเฉพาะ แต่จะเป็นการรักษาความอาการ เพื่อบรรเทาอาการของโรค ในแต่ละระยะเท่านั้น

การป้องกันโรคไข้เลือดออก

  1. ควรจัดการกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว ไม่ให้เป็นที่อยู่ของยุงลาย ซึ่งเป็นพาหะของโรคไข้เลือดออก โดยการกำจัดแหล่งน้ำขัง หาปลาหางนกยูงมาเลี้ยงในอ่างน้ำ ใส่ทรายอะเบตในตุ่มน้ำสำหรับอาบ เป็นต้น
  2. ควรมีการสวมเสื้อผ้า อย่างมิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้ยุงลายสามารถมากัดที่ผิวหนังได้
  3. ควรใช้ยากันยุงในการป้องกันยุงทุกครั้ง เวลาอยู่นอกบ้าน หรือในบ้านที่มีมุมอับ เหมาะกับการอยู่อาศัยของยุง โดยยากันยุงแนะนำให้เป็นพวกโลชั่นกันยุงสูตรธรรมชาติ ที่จะไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้
  4. นอนในมุ้งทุกครั้ง เพื่อป้องกันยุงมากัด ในยามค่ำคืน
  5. ไม่เข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง หรือมียุงลายเยอะ เช่นแหล่งน้ำขัง ในสวน พุ่มไม้ เป็นต้น