มาทำความรู้จักกับไวรัสเมอร์ส ไรรัสสายพันธุ์ใหม่ล่าสุด

0
5022

มาทำความรู้จักกับไวรัสเมอร์ส ไรรัสสายพันธุ์ใหม่ล่าสุด

– สำหรับโรคร้ายแรง ชนิดใหม่ ทีเป็นข่าวโด่งดัง จนกระทรวงสาธารณสุขของไทย ต้องประกาศเฝ้าระวัง นั่นก็คือโรคเมอร์ส หรือMiddle East Respiratory Syndrome (MERS) โดยโรคนี้เป็นโรคระบบทางเดินหายใจชนิดหนึ่ง ที่มีความร้ายแรงอย่างมาก Mers มีถิ่นกำเนิดในแถบตะวันออกกลางโดยเป็นเชื้อไวรัสในกลุ่มโคโรน่าไวรัส ที่เคยระบาดมาแล้วในนามของโรคซาร์ส นั่นเอง

– โรคเมอร์ส เป็นโรคทางเดินหายใจชนิดหนึ่ง ดังนั้นมันจึงมีการติดต่อ แพร่เชื้อผ่านทางลมหายใจ หรือละอองเสมหะ เมื่อมีการไอหรือจามเกิดขึ้น ทำให้เชื้อไวรัสตัวนี้แพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ที่มีความแอดอัดของประชากรสูง เช่นในเมืองใหญ่ ห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟ เป็นต้น

– อาการของโรคเมอร์สนั้น เริ่มแรกผู้ป่วยจะมีอาการไอ หายใจลำบาก และมีไข้ นอกจากนั้นสำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอ อาจจะมีอาการปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน และสำหรับผู้ที่อ่อนแอมาก จะมีอาการปอดบวม หรือไตวายได้เลยทีเดียว โดยมีการเก็บสถิติว่า ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเมอร์ส จะมีอัตราการเสียชีวิตที่ 30% ถือว่าเป็นโรค ที่มีความร้ายแรงอย่างมากเลยทีเดียว

– การรักษาโรคเมอร์ส นั้นจะเป็นการรักษาตามอาการ เพราะยังไม่มีวัคซีน ในการรักษาโรคนี้โดยเฉพาะ โดยจะรักษาเพื่อบรรเทาอาการอักเสบของระบบทางเดินอาหารให้ทุเลาลง แต่สำหรับผู้ที่มีอาการมากๆ อาจจะใช้วัคซีน ที่ใช้ในการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่แทนก็ได้

การป้องกันโรคเมอร์ส

  1. ดูแลตัวเอง ในด้านการรับประทานอาหาร ด้วยการกินของร้อน ใช้ช้อนกลาง และล้างมือทำความสะอาดมือทุกครั้งก่อนการรับประทานอาหาร
  2. เน้นรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ หลีกเลี่ยงอาหารค้างคืน หรืออาหารที่เสี่ยงต่อการบูดเสีย
  3. ป้องกันสุขอนามัยของตนเอง และผู้อื่นโดยใช้ผ้าเช้ดหน้า ทิชชู่ หรือหน้ากากอนามัย ในการป้องกันใบหน้า เมื่อเกิดการจาม หรือไอ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยง ในการรับเชื้อ และการแพร่กระจายเชื้อได้ดีมากๆ
  4. ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับน้ำลาย หรือเสมหะ ตลอดจนสารคัดหลั่ง ของผู้ป่วยที่ติดเชื้อเมอร์ส เช่นการจูบ เป็นต้น เพราะอย่างที่บอกว่าเชื้อไวรัสชนิดนี้จะแพร่กระจายตัวผ่านทางเสมหะ น้ำลาย และสารคัดหลั่ง โดยกระจายตัวไปในอากาศ เมื่อมีการจามหรือไอ
  5. ควรออกกำลังกายเป็นประจำ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ให้ครบ 5 หมู่
  6. หากไม่มีความจำเป็น ไม่ควรเดินทางไปยังพื้นที่ ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ตลอดจนไม่ควรเข้าไปอยู่ในเขต ที่มีความแออัดของประชากรสูง เนื่องจากจะเป็นแหล่ง ที่มีการแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย