กระคืออะไร แนะนำวิธีการป้องกันกระเบื้องต้น
ใบหน้าที่ผิวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลจางๆ จนถึงน้ำตาลเข้ม เป็นจุดๆ แผ่กระจายบนใบหน้า ทำลายความสวยงามของสาวๆ ไม่น้อย อีกทั้งเป็นอุปสรรคในการแต่งหน้าให้เนียนใส เป็นเนื้อเดียวกัน เวลาออกไปไหนต้องแต่งหน้าปกปิดรอยกระอย่างเต็มที่อย่างเดียว หมดสิทธิ์โชว์หน้าสด กระจึงทำให้เจ้าของใบหน้าขาดความมั่นใจในตัวเอง
กระคืออะไร
นิยามของกระ คงกล่าวได้ด้วยการอธิบายตามลักษณะได้ว่า กระ จุดสีน้ำตาลที่เกิดจากความผิดปกติของสีผิว มีขนาดเล็กๆ มักอยู่กระจายบนใบหน้า ขึ้นอยู่กับเป็นมากเป็นน้อย ในคนสูงอายุมักเห็นบ่อยกว่าวัยหนุ่มสาว ในคนตะวันตกมักเกิดขึ้นมากกว่าคนในซีกโลกตะวันออก
สาเหตุที่ทำให้เกิดกระบนใบหน้า
ก่อนที่จะหาทางป้องกันไม่ให้เกิดกระ จำเป็นต้องทราบก่อนว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดกระนั้น เกิดจากสิ่งต่อไปนี้
- พันธุกรรม จะพบบ่อยว่า หากพ่อแม่เป็นกระ ลูกมีแนวโน้มที่จะเป็นกระตามพ่อแม่
- แสงแดด รังสียูวีจากแสงแดดทำให้เม็ดสีผิวเกิดการเปลี่ยนแปลงผิดปกติ การที่ผิวสัมผัสกับแสงแดดเป็นประจำต่อเนื่อง อาจส่งผลในระยะยาว ดังที่เราจะพบว่า ผู้สูงอายุมักเป็นกระมากกว่านั่นเอง
- ฮอร์โมนแปรปรวน มีหลายกรณีที่ทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน เช่น ช่วงมีประจำเดือนของหญิง การกินยาคุมกำเนิด หรือฮอร์โมนที่เปลี่ยนในช่วงตั้งครรภ์เป็นต้น
วิธีป้องกันกระเบื้องต้น
กรณีที่เกิดจากพันธุกรรม ไม่สามารถป้องกันได้ แต่กรณีอื่น ป้องกันได้ดังนี้
- ใช้ครีมกันแดดก่อนออกกลางแจ้งเสมอ เนื่องจากแสงแดดเป็นเหตุให้เกิดกระ การป้องกันที่ดีจึงหมายถึงป้องกันไม่ให้ผิวถูกรังสีจากแสงแดด ซึ่งการเลือกใช้ครีมกันแดดนั้นก็ควรเลือกให้เหมาะกับความแรงของแดดและเวลาที่จะต้องอยู่กลางแจ้ง ค่า SPF ของครีม 15-45 ขึ้นอยู่กับความจำเป็น
- หลีกเลี่ยงการกินยาที่มีผลกระทบต่อฮอร์โมน ที่เปลี่ยนแปลงก็มีความเสี่ยงทำให้เกิดกระเช่นกัน ข้อนี้เลี่ยงได้บางอย่างเช่น ยาคุมกำเนิด หรือยาที่กินเพื่อกระตุ้นฮอร์โมนบางชนิด
- ป้องกันโดยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น เช่น การทำทรีตเมนต์ เพื่อให้ผิวถูกกระตุ้นให้มีการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว เมื่อผิวมีสุขภาพดี แข็งแรง ย่อมปกป้องตัวเองจากผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมได้ดีขึ้น
- กรณีที่เคยเป็นกระแล้ว แม้รักษาหายแล้ว ก็มีโอกาสเกิดขึ้นใหม่ตรงจุดเดิม การป้องกันกรณีนี้ สามารถทำได้โดยการใช้ครีมบำรุงผิว เลือกชนิดที่ป้องกันไม่ให้มีการสร้างเม็ดสีเป็นพิเศษ
โดยทั่วไป กระมีหลายชนิดและสามารถรักษาได้ หากเป็นกระทั่วๆ ไป ไม่เว้นแม้แต่ “กระเนื้อ” แต่กรณีที่มีลักษณะคล้ายกระเนื้อ อาจไม่ใช่เป็นกระแต่เป็นเนื้อร้ายก็เป็นได้ หากมีอาการผิดปกติจึงควรพบแพทย์เพื่อรักษาให้ทันท่วงที