ต้อกระจกเกิดจากอะไร เรามีวิธีการป้องกันมากบอกค่ะ
ต้อกระจก เป็นโรคที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุประเภทหนึ่ง ซึ่งจะเกิดจากการเสื่อมของเลนส์แก้วตา ทำให้เลนส์แก้วตาขุ่น แสงจึงผ่านเข้าไปยังประสาทตาได้น้อย ทำให้ผู้ป่วยมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้อย่างพร่ามัว อาการต้อกระจกนี้จะไม่มีการอักเสบ หรือเจ็บปวดใดๆ เลย แต่หากปล่อยทิ้งไว้ โดยไม่รักษาให้ทันท่วงทีก็จะเกิดอาการต้อหินเฉียบพลันตามมา และในที่สุดก็จะตาบอดได้นั่นเอง
สำหรับอาการของโรค ต้อกระจกนี้
– ในขั้นแรกที่เลนส์กระจกตาเริ่มเสื่อม และรับแสงได้น้อยลง ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วย จะมีอาการตามัวลงอย่างช้าๆ มองภาพไม่ชัดเจน คล้ายกับโดนหมอกจางๆ บัง นอกจากนั้นอาจมีอาการเห็นภาพซ้อน หรืออาการตาพร่า ตาสู้แสงจ้าๆ ไม่ได้ มีอาการเห็นดวงไฟ หรือหลอดไฟแตกกระจาย ซึ่งอาการนี้มักเป็นในช่วงเวลากลางคืน
อาการเริ่มแรกของโรคต้อกระจก
– ในบางรายจะมาพร้อมกับอาการสายตาสั้นมากขึ้นเรื่อยๆ และต้องเปลี่ยนแว่นสายตาบ่อยๆ แต่ในที่สุดเมื่อต้อกระจกขุ่นมากขึ้น แว่นสายตาก็จะช่วยอะไรไม่ได้อีกต่อไป ซึ่งถ้าหากไม่รีบรักษาและปล่อยไว้ ก็จะทำให้เกิดอาการแสบตา ปวดตาอย่างรุนแรง ซึ่งนี่ก็คืออาการของโรคแทรกซ้อนที่ร้ายแรงอย่างโรคต้อหิน ที่จะส่งผลทำให้ดวงตานั้นบอดได้เลยทีเดียว
สำหรับผู้ป่วยเป็นโรคต้อกระจก ปัจจุบันมีกรรมวิธีการรักษาที่ทันสมัย
– นั่นก็คือการผ่าตัดโดยใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ ทำการสลายตัวของต้อกระจก แล้วจึงทำการใส่เลนส์แก้วตาเทียม โดยเทคนิคนี้คือ เทคนิค Phacoemulsification ซึ่งเป็นเทคนิค ที่จะช่วยให้สายตาของผู้ป่วยกลับมาดีขึ้นอย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกนากนั้นแล้วยังมีผลข้างเคียงต่อการผ่าตัดน้อย เพราะจะมีแผลที่เกิดขึ้น จากการผ่าตัดโดยใช้เทคนิค Phacoemulsification เพียงแค่ 3 มิลลิเมตรเท่านั้น นอกจากนั้นยังไม่จำเป็นต้องพักฟื้นหลังการผ่าตัด เพียงแต่ต้องดูแลรักษาความสะอาดที่ดวงตามากเป็นพิเศษเท่านั้น
– อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ป่วย ที่มีอาการของต้อกระจกที่สุกมากเกินไป หรือต้อแข็งตัวมาก แพทย์อาจจะพิจารณา ใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบดั้งเดิม โดยการเปิดแผลกว้างราว 10-12 มิลลิเมตร เพื่อเอาเลนส์แก้วตา ที่เป็นต้อกระจกออก จากนั้นจึงทำการใส่เลนส์แก้วตามเทียมเข้าไป ซึ่งเป็นวิธี ที่ค่อนข้างยุ่งยากกว่าเทคนิคการผ่าตัดแบบ Phacoemulsification
การป้องกันต้อกระจก
– แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำมาว่าไม่สามารถป้องกันได้อย่าง 100% เพราะมันเป็นเรื่องของความเสื่อม ตามกาลเวลา แต่สามารถหลีกเลี่ยงจากสาเหตุบางสาเหตุได้ เช่น การควบคุมน้ำตาลในเลือด สำหรับผู้เป็นโรคเบาหวาน , หลีกเลี่ยงการซื้อยาประเภท สเตียรอยด์ มารับประทานเอง ตลอดจนการใช้ดวงตาอย่างทะนุถนอม ก็จะช่วยหลีกเลี่ยง และลดความเสี่ยงของการเป็นโรคต้อกระจกได้บ้าง
