วิธีการเลือกซื้อแอร์บ้าน ฉบับอ่านเข้าใจง่ายใน 5 นาที
เมืองไทยเมืองร้อน แต่รูปแบบการสร้างบ้านกลับเลียนแบบทางตะวันตกซึ่งเป็นเมืองหนาว แอร์จึงกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์จำเป็นของบ้าน และหากคุณต้องเลือกซื้อแอร์ด้วยตัวเอง คุณควรเลือกอย่างไร เรามาดูกัน
สิ่งที่ต้องการ
- เย็นพอดีและประหยัดไฟ การติดแอร์บ้านนั้น แม้ว่าเราจะลงทุนค่าแอร์ ค่าติดตั้งครั้งเดียว แต่เราต้องรับภาระค่าไฟจากการใช้งานไปตลอดอายุการใช้งาน ดังนั้นหัวข้อแรกที่ต้องคำนึงถึงก่อนซื้อแอร์ก็คือ ต้องซื้อขนาดพอเหมาะแก่งานที่ใช้ ไม่ใหญ่เกินไป เพราะจะเปลืองไฟมาก
- เดินเครื่องเบา แอร์บ้านไม่ควรรบกวนความเป็นอยู่หรือการพักผ่อนยามค่ำคืน จึงควรมีเสียงเบามากๆ
เลือกแอร์แบบไหนจึงจะประหยัดไฟ จะประหยัดไฟได้ก็ต้องเลือกแอร์ที่มีขนาดเหมาะกับขนาดของห้อง ขนาดของแอร์นั้นมีหน่วยวัดเป็น BTU (British Thermal Unit) ซึ่งขนาดที่พอเหมาะนั้นอยู่ที่ 700 BTU/พื้นที่ 1 ตารางเมตร แต่ก็สามารถยืดหยุ่นได้ เพราะว่า ห้องแต่ละห้องอยู่ในพื้นที่ที่แตกต่างกัน ทิศทางลม ทิศทางแดด ถ้าเลือกขนาดของแอร์ที่ใหญ่เกินไป นอกจากจะหนาวเร็วแล้วยังกินไฟอีก
นอกจากนั้น ในปัจจุบัน เครื่องไฟฟ้ายังมีการผลิตในระบบประหยัดไฟ เบอร์ 5 สังเกตได้ที่ฉลากที่ติดไว้ แต่ประเภทนี้อาจมีราคาสูงกว่าทั่วไป
เลือกแอร์แบบไหนจึงจะเดินเครื่องเบา
ขึ้นอยู่กับคอมเพรสเซอร์ โดยทั่วไปแอร์บ้านซึ่งเป็นแอร์ที่มีขนาดเล็ก จะเป็นคอมเพรสเซอร์ประเภท
- คอมเพรสเซอร์โรตารี่ ประเภทนี้จะมีแรงสะเทือนน้อย การเดินเครื่องจึงเบา
- คอมเพรสเซอร์แบบขด เป็นคอมเพรสเซอร์อีกอย่างที่เดินเครื่องเบามาก เรียกว่าเงียบกว่าอย่างอื่น
เราจึงควรศึกษาว่า แอร์แต่ละยี่ห้อที่สนใจนั้น แบบไหนและราคาไหนถูกใจเรามากกว่ากัน เพราะโดยทั่วไป แอร์ที่ให้คอมเพรสเซอร์ที่เดินเครื่องเบานั้น มักมีราคาสูงกว่ายี่ห้ออื่นอยู่บ้าง
ระบบฟอกอากาศจำเป็นหรือไม่
ห้องที่ติดแอร์ มักจะปิดห้องไว้ตลอดเวลา ทำให้อากาศภายในห้องไม่มีการระบาย และนั่นหมายถึง ความชื้นที่เกิดขึ้นในห้องอาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้ ดังนั้นระบบฟอกอากาศในแอร์จึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่นับว่าสำคัญในการเลือกซื้อ ส่วนจะเป็นแบบไหน ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจว่า ชอบระบบแบบที่มีการกรองฝุ่น ที่ใช้คาร์บอน หรือ การดักฝุ่นด้วยระบบไฟฟ้าสถิต หรือ เป็นแบบปล่อยประจุไฟฟ้าออกมาจับฝุ่น
แอร์ติดผนังหรือตั้งพื้นดีกว่ากัน
แอร์ติดผนังและแอร์ตั้งพื้นนั้นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน แต่ดูเหมือนว่าจะถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานแต่ละประเภทอยู่แล้ว ในห้องทั่วไป เช่น ห้องนอน ห้องรับแขก นิยมใช้แบบติดผนังมากกว่า เพราะห้องไม่ใหญ่มาก ส่วนแบบตั้งพื้นนั้น อาจให้พลังงานที่สูงกว่าแต่ก็กินไฟมากกว่าไปด้วย