โรคไมเกรน เกิดจากอะไร รักษาอย่างไร
อาการปวดหัวข้างเดียว ปวดตุ้บๆ ปวดมากจนแทบไม่เป็นอันทำอะไร และบางทีก็มีอาการอื่นข้างเคียงอีก เป็นความทุกข์ทรมานสำหรับคนที่มีอาการไมเกรน แท้จริงแล้ว คำว่าปวดหัวข้างเดียวนั้น เป็นอาการที่พบมากของไมเกรน แต่บางคนอาจปวดทั้งสองข้าง ปวดซ้ำๆ วนๆ และบางคนก็ปวดไปถึง บริเวณเบ้าตา บางครั้งถึงกับมีอาการคลื่นไส้อาเจียนด้วยก็มี
ไมเกรนเกิดจากอะไร
ความจริงของไมเกรนที่ทุกคนควรทราบก็คือ นี่คือโรคชนิดหนึ่งที่มากกว่าอาการปวดธรรมดา เนื่องจากไมเกรนนั้น นับเป็นโรคทางสมองชนิดหนึ่ง แม้ว่าจะยังหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ก็จริง แต่ก็มีข้อสันนิษฐานที่น่าเชื่อได้ว่า เป็นไปได้ว่า โรคนี้เกิดจากก้านสมองทำงานผิดปกติ หรือเกิดจากสภาวะที่สารเคมีในสมองไม่สมดุล ทำให้หลอดเลือดมีความไวต่อการกระตุ้นมากเป็นพิเศษ การหด และขยายตัวของหลอดเลือดที่มีความผิดปกติทำให้เกิดอาการปวดขึ้นมา
ส่วนสาเหตุที่ทำให้หลอดเลือดมีความไวต่อการกระตุ้นนั้น นับว่าเป็นพันธุกรรม
ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดไมเกรน
มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคนี้อยู่บ้างว่า ความเครียดทำให้เป็นไมเกรน ซึ่งแท้จริงแล้ว เป็นเพราะผู้ป่วยคนนั้นมีความเสี่ยงที่จะเป็นจากกรรมพันธุ์อยู่แล้ว ไม่ใช่เพราะความเครียดโดยตรง นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นอีกที่อาจทำให้เป็นไมเกรนได้
- ผู้หญิงช่วงที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เช่นช่วงไข่ตก ช่วงตั้งครรภ์ อาจทำให้เป็นไมเกรนได้
- อาหารและเครื่องดื่มก็มีส่วนกระตุ้นให้เป็นไมเกรนได้ เช่น เครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ ตลอดจนน้ำตาลเทียม หรือเครื่องดื่มอย่างไวน์แดง
- ประสาทถูกกระตุ้นด้วยเสียงดัง กลิ่นฉุน เหม็น
- การนอนที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นนอนน้อยไปหรือมากไป ก็อาจทำให้เป็นได้
- อากาศและสภาวะแวดล้อมที่เต็มไปด้วย ฝุ่น ควัน และมลภาวะ
- การใช้ยาบางอย่าง
การรักษาไมเกรน
เนื่องจากสาเหตุการเป็นไมเกรนก็ยังต้องมีการศึกษากันต่อไปให้แน่ชัด เพราะในปัจจุบันยังคงเป็นเพียงสมมติฐาน ฉะนั้น การรักษาหรือป้องกัน จึงคงเป็นไปตามอาการที่เกิดขึ้น ไม่ใช่รักษาแบบรับรองว่าจะหายขาดจากโรค แต่เป็นการรักษาเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถมีชีวิตความเป็นอยู่ปกติได้ อย่างไม่ทุกข์ทรมานมากนัก
ดังนั้น จึงมีการเยียวยาหลายอย่าง เช่น การกินยาแก้ปวด หรือกินยาป้องกันซึ่งเป็นยาแก้ความดันบางกลุ่ม
ที่สำคัญกว่าความช่วยเหลือของแพทย์คือ ตัวผู้ป่วยเองต้องหมั่นสังเกตว่า อะไรเป็นตัวกระตุ้นให้อาการไมเกรนของตัวเองกำเริบ และเลี่ยงปัจจัยเหล่านั้น แม้ว่าจะไม่ใช่การรักษาแต่ก็ทำให้มีโอกาสเป็นน้อยลง